แก๊สธรรมชาติ จะพบในชั้นหินที่มีรูพรุนใต้พื้นผิวโลก มักจะพบอยู่บนผิวหน้าของน้ำมันดิบ แก๊สหุงต้ม หรือ แก๊สปิโตรเลียมเหลว (Liqueified Petroleum Gas : LPG) เกิดขึ้นได้ 2 วิธี... 1.ผลิตจากกระบวนการกลั่นน้ำมันในโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ 2.ผลิตจากกระบวนการแยกแก๊สของแก๊สธรรมชาติ แก๊สหุงต้ม (LPG) ประกอบด้วยแก๊สโปรเพน (Propane) และแก๊สบิวเทน (Butane) เป็นส่วนประกอบหลัก และจะบรรจุในสภาพเป็นของเหลวโดยการอัดให้มีความดัน ประมาณ100 - 130 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แก๊สธรรมชาติ ประกอบด้วย แก๊สมีเทน (Metane) เป็นส่วนใหญ่ และมีแก๊สโปรเพน บิวเทน และอีเทนผสมอยู่บ้างเล็กน้อย |
คุณสมบัติพื้นฐานของแก๊สที่ควรรู้
แก๊สบิวเทน มีค่าความดันไอ ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส เท่ากับ 55 ปอนด์/ตารางนิ้ว
แก๊สโปรเพน มีค่าความดันไอ เท่ากับ 177 ปอนด์/ตารางนิ้ว แก๊สมีเทน ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของแก๊สธรรมชาติ จะมีค่าความดันไอที่สูงกว่าแก๊สโปรเพนในแก๊สหุงต้ม ประมาณ 40 เท่า ดังนั้นการนำแก๊สธรรมชาติ มาใช้งานจึงไม่เหมาะที่จะบรรจุถังเป็นของเหลว เว้นแต่จะทำให้แก๊สเย็นตัวลง จนถึงอุณหภูมิ (-160) องศาเซลเซียส จึงจะได้แก๊สมีเทนในสภาพของเหลวที่ความดันบรรยากาศ แต่เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำมาก ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้
แก๊สทั้งสามชนิดที่เป็นส่วนผสมของแก๊สธรรมชาติและแก๊สหุงต้ม มีย่านที่ติดไฟได้ค่อนข้างแคบมาก ซึ่งหมายความว่า ถ้าแก๊สธรรมชาติหรือแก๊สหุงต้มรั่วออกมา จะมีโอกาสติดไฟได้น้อยมาก
จุดติดไฟอัตโนมัติของแก๊สมีเทน คือ 537 แก๊ส โปรเพนคือ 470 แก๊สบิวเทนคือ 365 องศาเซลเซียส
|